🐣🐣เราจะสามารถปกป้องคุณภาพเปลือกไข่ในหน้าร้อนได้อย่างไร ?
🔥🔥ในฤดูร้อนปัญหาที่มักเกิดขึ้นได้บ่อยในการเลี้ยงสัตว์ คือการเกิดภาวะ “Heat stress” ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตได้ โดยกระทบอย่างมากในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ไข่และไก่พันธุ์ เนื่องจากภาวะ Heat stress นั้นเกิดจากอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงเกินไป ทำให้สัตว์เกิดความเครียดจากการที่ไม่สามารถระบายความร้อนภายในร่างกายออกมาได้ ส่งผลให้เห็นพฤติกรรมหอบหายใจอย่างรวดเร็ว ในรายที่รุนแรงอาจทำให้สัตว์ตาย
🐔🐔จากพฤติกรรมการหอบหายใจ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสมดุลของกรด-เบสภายในร่างกายสัตว์ เนื่องจากการหอบจะเกิดการขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามาก ทำให้เลือดมีภาวะเป็นด่าง เรียกภาวะนี้ว่า Respiratory alkalosis ร่างกายสัตว์จึงต้องทำการปรับสมดุลกรด-เบสในเลือด โดยการขับ Bicarbonate ออกทางไต แต่สัตว์ปีกในระยะผลิตไข่จำเป็นต้องอาศัย Bicarbonate จับกับแคลเซียม ให้กลายเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ในกระบวนการสร้างเปลือกไข่ การสูญเสีย Bicarbonate จากภาวะ Heat stress จึงทำให้พบปัญหาไข่เปลือกบางบุบร้าวได้ง่าย
♻️♻️การป้องกันการเกิดไข่เปลือกบางจากภาวะ Heat stress สามารถทำได้ในด้านโรงเรือนคือการเลี้ยงสัตว์ปีกในโรงเรือนปิด (Evaporative Cooling System) ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนไม่ให้สูงเกินไป หรือมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยลดความร้อนในโรงเรือนเปิด นอกจากนี้เรื่องโภชนาอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญในช่วงการเกิด Heat stress เนื่องจากไก่ที่อยู่ในสภาวะนี้จะมีอัตราการกินได้ (Feed intake) ลดลง จึงควรเสริมวิตามินและแร่ธาตุจำพวก Zn, Mn, Cu, Se ที่ช่วยในเรื่องของการรักษาคุณภาพไข่และเปลือกไข่ เพื่อลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตที่เกิดขึ้นจากภาวะ Heat stress ได้
✅✅ASP จึงเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดจากภาวะ Heat stress จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ เชลล์การ์ด พลัส (Shellguard plus) ที่มีองค์ประกอบของวิตามินและแร่ธาตุ อย่าง Zn, Mn, Cu ที่ทำหน้าที่เป็น Co-factor ของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสร้างปลือกไข่ นอกจากนี้ยังมี Se ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี เพื่อคงคุณภาพความสดของไข่ให้ยาวนานมากขึ้น โดยมีผลทดลองของผลิตภัณฑ์ สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเปลือกไข่ได้ 41% (> 3,000 g/cm2 pressure force) และสามารถคำนวณความคุ้มค่าการลงทุน (ROI) อยู่ที่ 6.05 เท่า** (คำนวณจากความสามารถในการลดการเกิดไข่บุบร้าวได้ 2% เมื่อใช้ Shellguard plus 1กิโลกรัม/ตันอาหาร และราคาขายไข่อยู่ที่ 3.4 บาท/ฟอง)