สรุปเนื้อหาจากงานสัมมนาออนไลน์ผ่าน Facebook Live
หัวข้อ “จีนเปิดด่าน….โอกาสทองของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อไทย”
วันที่ 18 มีนาคม 2564 เวลา 13.00-15.00 น. สถานที่ ลุงเชาวน์ฟาร์ม จ.สุพรรณบุรี
โดย เอเอสพี รูมิแน้นท์ (ASP Ruminant), เครือเวทโปรกดักส์
1. ภาคผู้เลี้ยงและการรับซื้อเพื่อการส่งออก
หัวข้อ “ความพร้อมของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อไทย และผู้ซื้อ – ผู้จำหน่ายในการส่งออก โคเนื้อ สู่ตลาดโลก”
วิทยากร คุณเรวัต วัชราไทย และคุณกชกร วัชราไทย จากลุงเชาวน์ฟาร์ม ประเทศไทย
- จากกรณีที่มีการเปิดด่านประเทศจีนลาว คุณปุ้ยมองว่า ถึงแม้ว่าเดิมลุงเชาวน์ฟาร์มสามารถส่งออกต่างประเทศได้ตามปกติ แต่หลังโควิดครั้งนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมดูจากการที่จีนไปสร้างโรงเชือดมาตรฐานใหม่ถึง 2 แห่ง บ่งบอกถึงว่าจีนกำลังยกระดับมาตรฐานและใช้สินค้าที่มีมาตรฐานเท่านั้น มาตรฐานเดิมที่เรามีอาจไม่ได้ผลถ้าหากตัวแปรเปลี่ยนแปลงไปนั่นคือหากประเทศลาวมีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์ที่สูงขึ้น เราต้องปรับตัวตามไปด้วย
- จากกรณีที่มีคำถามว่าราคาวัวในประเทศสูงขึ้น กินใช้กันในประเทศก็ไม่พอแล้วยังต้องส่งออกอีกหรือ? คุณปุ้ยมองว่าเป็นโอกาสของประเทศเรามากกว่าเพราะเรายิ่งมีช่องทางตลาดมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจในการผลิตวัวต้นน้ำมากขึ้นเท่านั้น ร่วมกับสถานการณ์วัวนำเข้าก็มีราคาแพงและสถานการณ์ในประเทศข้างเคียงก็ยังไม่คงที่แต่มองว่าประเทศไทยเป็นจุดได้เปรียบที่สามารถเชื่อมโยงได้กับทุกประเทศ
- ทางลุงเชาวน์ฟาร์มเล็งเห็นถึงปัญหาจึงหันมาโฟกัสวัวต้นน้ำมากขึ้นโดยทำสายพันธุ์ลูกผสมบราห์มัน และลูกผสมสายพันธุ์ยุโรป เช่น ชาร์โรเล่ และกำลังพัฒนาสายพันธุ์ลูกผสมช็อทฮอร์นทั้งสีขาว ดำ และแดงซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี อัตราแลกเนื้อที่ดี และยังสามารถขายได้ในตลาดทุกรูปแบบ
- มาตรฐานของลุงเชาวน์ฟาร์มได้แก่ มาตรฐานGAP GFM ฟาร์มปลอดสารเร่งเนื้อแดง ฟาร์มปลอดโรคปากเท้าเปื่อย
- คุณปุ้ย ฝากสำหรับคนที่กำลังจะเลี้ยงวัว ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะไปทางไหน เพราะในวงการมีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทุกตลาดมีตลาดของตัวมันเอง
- ลุงปื๊ด ฝากแนะนำใช้แม่ช็อทฮอร์นไปผสมกับแม่บราห์มัน ออกลูกมา ทางลุงเชาวน์ฟาร์มรับซื้อ
ถาม-ตอบ
คำถามที่ 1 : ตลาดโคเนื้อมีกี่กลุ่ม ?
ตอบ : ตลาดไทยมีตลาดหลากหลาย ไทยเราควรแบ่งงานกันทำ ทั้งผู้ผลิตวัวขุนหรือผู้ผลิตวัวต้นน้ำ ไม่มีอะไรดีที่สุด แต่ ณ ตอนนี้เราขาดวัวที่มีคุณภาพ
คำถามที่ 2 : ถ้าทำวัวปลอดสาร ทำได้จริงไหม คุ้มค่าไหม ?
ตอบ : ทำได้ มาตรฐานตลาดถูกยกสูงขึ้น การขุนวัวสามารถทำได้ตลอด อยากให้ส่งเสริมตลาดวัวต้นน้ำมากขึ้น โดยพัฒนาตั้งแต่สายพันธุ์เลย
คำถามที่ 3 : ลุงเชาวน์ฟาร์มรับซื้อวัวจากภายนอกไปด้วยมั้ย ?
ตอบ : รับที่น้ำหนัก 300-400 กก. ถ้าหากมากกว่านี้ติดต่อทาง ASP Ruminant/Vet Products Group
2. ตลาดโคเนื้อ ประเทศจีน และเวียดนาม
หัวข้อ “จีน และ เวียดนาม กับโอกาสทางการตลาดของผู้เลี้ยงโคเนื้อไทย”
วิทยากรประเทศจีน
Mr. Shi Peng, Xishuangbanna Yongrunhe Assets Co., Ltd.,(President) and Xishuangbanna Hengyi Import and Export Co., Ltd., ( Director) ผู้นำเข้าโคเนื้อรายใหญ่ ประเทศจีน และ น.สพ.คมกริช บุญขจร Country Manager, Vet Products China
- จีนเปิดโปรเจคโคเนื้อเพื่อการค้าในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยให้มณฑลยูนนานเป็นศูนย์กลาง มีโรงเชือดขนาดใหญ่ 3 แห่ง โดยอยู่ที่เมืองสิบสองปันนา ซึ่งเชื่อมต่อกับเวียดนาม ลาว และพม่าโดยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญจากจีนสู่อาเซียน โดยจีนให้ลาวและพม่าเป็นจุดกักโรคก่อนเข้าสู่โรงเชือดเพื่อนำไปบริโภคในประเทศ แต่เนื่องจากด่านทางฝั่งพม่าสถานการณ์ไม่ปกติจึงทำให้ด่านฝั่งลาวนั้นเปิดก่อน
- ที่ประเทศลาวจะทำการกักโคที่เมืองสิงห์เป็นเวลา 45 วันก่อนไปจีน โคจะถูกเชือดที่โรงเชือดเฉินคังซึ่งสามารถเชือดได้ 1,500-2,000 ตัว/วัน จากจำนวนทั้งหมดที่จีนต้องการ 500,000 ตัว/ปี คนจีนบริโภคเนื้อวัว 9,000,000 ตัน/ปี แต่สามารถผลิตเองได้เพียง 6,000,000 ตัน/ปี ส่วนที่เหลือจึงต้องนำเข้าจากบราซิล อาร์เจนตินา และออสเตรเลียโดยรวม 2,000,000 ตัน/ปี ส่วนที่เหลือนำเข้าจากอาเซียน
- หน่วยงานศุลกากรจีนประกาศอนุญาตให้นำเข้าโคเนื้อเพื่อการเชือดจากประเทศลาว โดยช่วงเวลานี้กำลังทดสอบระบบด้วยจำนวนประมาณ 3,000 ตัว เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปจึงจะสามารถเปิดแบบเต็มระบบ
- บริษัทเฮิงอี้มีโปรเจคนำวัวเข้าสู่ประเทศจีนผ่านทางลาว โดยบริษัทนี้ได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลมณฑลยูนนานจาก300 กว่าบริษัทให้เป็นตัวแทน 1 ใน 8 บริษัทที่สามารถนำวัวเข้าประเทศจีนได้ โดยเป้าหมายของบริษัทเฮิงอี้อยู่ที่ 100,000 ตัว/ปี ตอนนี้บริษัทได้สร้างคอกกักที่ประเทศลาวเพื่อรองรับไว้แล้ว
- ข้อกำหนดในการนำเข้าวัวของประเทศจีนได้แก่ ลูกผสมยุโรปชาร์โรเล่ ซิมเมนทัล หรือวัวพื้นเมืองน้ำหนัก 300-500 กิโลกรัม มีเอกสารผ่านการทดสอบปลอดสารเร่งเนื้อแดง
- ประเทศจีน ฝากว่าประเทศจีนต้องการวัวเยอะมากอยากให้ไทยร่วมมือยาวๆ และทำคุณภาพให้ดีที่สุด นอกจากนี้ทางบริษัท เวทโปรดักส์ ไชน่า ยังเป็นอีกภาคส่วนที่ช่วยขยายตลาดให้กับประเทศไทย เพิ่มโอกาสให้กับประเทศไทยต่อไป
ถาม-ตอบ
คำถามที่ 1 : ราคาจีนใครเป็นผู้กำหนด ?
ตอบ : เรากำหนดทั้งคู่ และเป็นไปตามตลาด ซื้อราคาที่หน้าฟาร์มก็ได้ ที่ด่านก็ได้ แต่ที่เมืองสิงเลยดีที่สุด ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 23-26 หยวน ขึ้นกับสายพันธุ์/น้ำหนัก
คำถามที่ 2 : วัวประเทศจีนต้องปลอดสารเท่านั้นใช่มั้ย ?
ตอบ : ใช่เพราะเน้นของที่ปลอดภัยและคุณภาพดีกับคนจีน หากเจอสารจะ Reject ทันที
คำถามที่ 3 : ช่องทางการติดต่อขายวัวมาที่จีน ?
ตอบ : มีตัวแทนหลายทางในการนำเข้าจีน เพราะมีโควตาถึง 8 ราย
คำถามที่ 4 : วัวลูกผสมขาวดำชาร์โรเล่หรือขาวดำบราห์มันรับหรือไม่ ?
ตอบ : รับ โดยอายุน้อยกว่า 4 ปี น้ำหนัก 350-400 กก. (อาจมากถึง 500 กก.ก็ได้) รับหมดทุกสายพันธุ์
วิทยากรประเทศเวียดนาม
Ms.Vu Huong Giang, Purchasing Manager, บริษัท Hoa Phat Group ผู้นำเข้าโคเนื้อรายใหญ่ ประเทศเวียดนาม และ น.สพ.ภุชงค์ ไชยคำภา Country Manager, Vet Products Vietnam
- เวียดนามมีความต้องการวัวค่อนข้างมาก อัตราการบริโภค 10 กก./คน/ปี มีการนำเข้าโคจากออสเตรเลีย ลาว มากมาย แต่ช่วงนี้ต้องการวัวไทยมากเพราะราคาวัวออสเตรเลียสูงขึ้น
- บริษัท หว่าฟัด มีวัวอยู่ประมาณ 140,000 ตัว ปีหน้าคาดการณ์นำเข้า 250,000 ตัว และจากไทย 40,000 ตัว
- ข้อกำหนดในการนำเข้าวัวของประเทศเวียดนามได้แก่ลูกผสมชาร์โรเล่ แองกัส ลูกผสมพื้นเมือง น้ำหนัก 300-500 กก.ขึ้นไป มีเอกสารผ่านการทดสอบปลอดสารเร่งเนื้อแดงและปลอดการใช้ฮอร์โมน
- ราคาตามฤดูกาล หรือตามท้องตลาด อาจเป็นราคาที่หน้าฟาร์มไทย หรือราคาส่งที่เวียดนามเลยก็ได้ แล้วแต่ตกลงกัน
- ข้อกำหนดการกักโรคหลังจากเข้าเวียดนามมาแล้วต้องมีการกักโรคที่เวียดนามก่อน 30 วันด้วย มีการตรวจโดยกรมปศุสัตว์ของเวียดนาม
- ประเทศเวียดนาม ฝากว่าเค้ายังกังวลเรื่องความเพียงพอของปริมาณวัวจากเกษตรกรไทย และต้องการวัวที่มีคุณภาพ โดยอาศัยตัวแทนในการนำวัวเข้าเวียดนาม และนอกจากนี้เกษตรกรต้องกลับไปดูว่าต้นทุนตัวเองได้ไหมด้วย
ถาม-ตอบ
คำถามที่ 1 : ราคาเวียดนามใครเป็นคนกำหนด ?
ตอบ : ตามความอุปสงค์-อุปทานของตลาด ของเวียดนามแบ่งตามพื้นที่ เหนือกลางใต้ และขึ้นกับสายพันธุ์ของวัว
คำถามที่ 2 : เวียดนามต้องการวัวผอม/อ้วน หากมี 450 กก. สามารถส่งได้ไหม ?
ตอบ : เวียดนามรับหมด แต่ถ้าวัวตัวเล็กขอให้ไม่อายุเยอะเกินไป
คำถามที่ 3 : วัวลูกผสมขาวดำชาร์โรเล่หรือขาวดำบราห์มันรับหรือไม่ ?
ตอบ : รับ ประเทศเวียดนามมีความเป็นห่วงเรื่องใดหากรับวัวจากไทย – อยากให้มีปริมาณวัวที่เพียงพอในการส่งให้เวียดนาม และอีกเรื่องคือเป็นห่วงเรื่องสารเร่งเนื้อแดง
คำถามที่ 4 : ประเทศเวียดนามมีการสกรีนซ้ำมั้ย ?
ตอบ : ในช่วง 30 วันของการกักโรคจะมีการตรวจซ้ำ โดยกรมปศุสัตว์ของเวียดนาม โดยตรวจทั้ง การปลอด FMD และ ปลอดสารเร่งเนื้อแดง
3. บทบาทของสมาคมฯ เพื่อการส่งออกโคเนื้อสู่ต่างประเทศ
หัวข้อ “บทบาทของสมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย เพื่อการส่งออกโคเนื้อสู่ต่างประเทศ”
วิทยากร นายสุรชัย เปี่ยมคล้า เลขานุการสมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย
- สถานการณ์ภาพรวมของการผลิตโคเนื้อในประเทศไทย ไม่เพียงพอ ได้แก่ แม่พันธุ์ไม่เพียงพอในการผลิตลูก
- ทำอย่างไรให้เพียงพอ สมาคมร่วมกับกรมฯ และธกส. ทำโครงการเสนอชดเชยดอกเบี้ย เหลือร้อยละ 2 บาท/ปี จาก 6 บาท/ปี เนื่องจากการผลิตลูก 1 ตัวต้องใช้เวลาในการผลิต เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ยังทำการปรับปรุงสายพันธุ์ เพื่อให้วัวไทยโตได้วันละ 1 กก.
- ปัจจุบันตลาดนำการผลิต อย่างเช่น จีนมีความต้องวัวนำเข้า 500,000 ตัว ทำให้มีโอกาสส่งออกได้สูงขึ้น ทำอย่างไรให้ภายในประเทศจัดสมดุลกันให้ดี
- เราจะต้องเตรียมความพร้อมจากมาตรฐานการเลี้ยงที่สูงขึ้น โดยเลขาฯสมาคม มองว่าเป็นโอกาสให้กับเกษตรกรไทย
- คุณสุรชัย ฝากเราควรปรับตัวเพิ่มมาตรฐานให้กับตัวเองเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับตัวเอง เดินเข้าไปคุยกับกรมปศุสัตว์เลยจะทำให้ได้ข้อมูลมากขึ้น และควรปฏิบัติตามกฏหมายและตามระเบียบด้วย
ถาม-ตอบ
คำถามที่ 1 : ทิศทางของวัวเนื้อไทยไปทางไหนดี ?
ตอบ : ขึ้นกับความพร้อมและต้นทุนการผลิตของแต่ละคน คนเป็นผู้ผลิตต้องทราบต้นทุนของตัวเอง เพราะโครงสร้างของพื้นที่ แหล่งพืชอาหารหยาบ ต่างกัน ถ้ามองภาพรวมตอนนี้ควรไปอยู่ที่แม่เลี้ยงลูก เพราะต้นทุนน้อย และค่อนข้างเหมาะกับคนไทยมาก
คำถามที่ 2 : วัวต้นน้ำเราจะเพียงพอได้ประมาณอีกกี่ปี ?
ตอบ : ตอนนี้มีแม่วัว 1.5 ล้านตัว แต่มีลูกวัวแค่ 0.7 ตัว ทำอย่างไรให้เราสามารถผลิตได้ถึง 80% ดังนั้นโจทย์คือต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของแม่พันธุ์ให้ได้ อีก 3 ปีข้างหน้าก็ยังมีช่องว่างได้อีกเยอะ
คำถามที่ 3 : ในประเทศไทย มีโอกาสในการขยายฟาร์มเลี้ยงวัวขุนมากน้อยแค่ไหน ?
ตอบ : เปิดกว้างมาก ยังไงก็ขายได้ถ้ามีการผลิตวัวเนื้อที่มีคุณภาพ
4. ระบุระเบียบและขั้นตอนการส่งออกอย่างละเอียด
โดย สพ.ญ.ปวัสดา แสนล้อม Senior Products Specialist, ASP Ruminant
ระเบียบและขั้นตอนการส่งออกอย่างละเอียด ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่
ขั้นตอนที่ 1 กักโค ณ สถานกักกันสัตว์ที่ได้รับรองเพื่อการส่งออกโดคมีชีวิตจากกรมปศุสัตว์ เป็นเวลา 21 วัน
ขั้นตอนที่ 2 ติดเบอร์หู (NID), ฉีดวัคซีนป้องกันโรค FMD 1 เข็ม (ทำการบันทึกเลขลอท/วันที่ทำวัคซีน), ถ่ายพยาธิภายในและภายนอก
ขั้นตอนที่ 3 ขออนุญาตเคลื่อนย้ายจากคอกกักสัตว์ต้นทางไปยังด่านกักสัตว์ท่าออก (ใบ ร.3 และ ใบ ร.4)
ขั้นตอนที่ 4 ด่านกักกันสัตว์ท่าออกฯ ตรวจสอบเอกสาร, ตรวจสุขภาพสัตว์, ออกใบอนุญาตนำเข้าสัตว์ออกนอกราชอาณาจักร(ใบ ร. 9) ใบรับรองสุขภาพสัตว์ (Veterinary Health Certificate) โดยรับรองตามเงื่อนไขของ สปป.ลาว และ Form D หรือหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด
*******************จบงานสัมมนา******************